พระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๑๗ 

20 ส.ค.56 (21:35 น.)
เปิดอ่าน 178 ครั้ง

พระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๑๗

มาตรา ๑  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “ พระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.๒๕๑๗ ”

มาตรา ๒  พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓  ให้ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๘๗ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๑๕

หมวดที่ ๑

บททั่วไป

มาตรา ๔  ในพระราชบัญญัตินี้ “ การฌาปนกิจสงเคราะห์ ” หมายความว่า กิจการที่บุคคลหลายคนตกลงเข้ากัน เพื่อทำการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันในการจัดการศพ หรือจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัวของบุคคลหนึ่งบุคคลใดที่ตกลงเข้ากันนั้นซึ่งถึงแก่ความตาย และมิได้ประสงค์จะหากำไรเพื่อแบ่งปันกัน

“ สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ” หมายความว่า สมาคมที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินกิจการฌาปนกิจ

“ เงินค่าสมัคร ” หมายความว่า เงินค่าสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์

“ เงินสงเคราะห์ ” หมายความว่า เงินที่สมาชิกร่วมกันออกช่วยเหลือเป็นค่าจัดการศพ หรือค่าจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัวของสมาชิกซึ่งถึงแก่ความตาย รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์

“ พนักงานเจ้าหน้าที่ ” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้

“ นายทะเบียน ” หมายความว่านายทะเบียนกลางสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือนายทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ประจำท้องที่แล้วแต่กรณี

 อธิบดี ” หมายความว่า อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์

“ ปลัดกระทรวง ” หมายความว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทย

มาตรา ๕  ห้ามมิให้บุคคลใดนอกจากสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ และการฌาปนกิจสงเคราะห์ที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว ใช้คำแสดงชื่อในธุรกิจว่า “ ฌาปนกิจสงเคราะห์ ” หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกัน

มาตรา ๖  ให้อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์เป็นนายทะเบียนกลางสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ และเป็นนายทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ประจำท้องที่กรุงเทพมหานคร ส่วนนายทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ประจำท้องที่อื่น ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นตามความจำเป็น

มาตรา ๗  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัติ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ กับออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียม ไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ ยกเว้นค่าธรรมเนียมและกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ( กฎกระทรวง เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้ )

กลับไปเริ่มต้นใหม่

หมวดที่ ๒

การจัดตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์

มาตรา ๘  สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์จะมีขึ้นได้โดยอาศัยอำนาจตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้เท่านั้น   สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์จะมีวัตถุประสงค์นอกจากการฌาปนกิจสงเคราะห์ด้วยมิได้

มาตรา ๙  สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ต้องมีข้อบังคับ และต้องจดทะเบียน เมื่อได้จดทะเบียนแล้ว สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์มีฐานะเป็นนิติบุคคล

มาตรา ๑๐  การตั้งสาขาสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์จะกระทำมิได้

มาตรา ๑๑  การขอจดทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์นั้น ให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ จำนวนไม่น้อยกว่าเจ็ดคน ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนประจำท้องที่ที่จะตั้งสำนักงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือนายทะเบียนกลาง ถ้าไม่มีนายทะเบียนประจำท้องที่ในท้องที่นั้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฏกระทรวง พร้อมด้วยข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อย่างน้อยสามฉบับ

มาตรา ๑๒  ในการขอจดทะเบียนนั้น ถ้าได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตามที่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๑ มีข้อบังคับถูกต้องตามมาตรา ๑๔ และข้อบังคับนั้นไม่ขัดต่อกฏหมายและวัตถุประสงค์ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ กับผู้เริ่มก่อการจัดตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ทุกคน เป็นผู้มีหลักฐานสมควรแก่วัตถุประสงค์ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนได้   และให้ออกใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนตามแบบที่กำหนดในกระทรวงให้แก่สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ถ้านายทะเบียนเห็นว่าจะรับจดทะเบียน

มิได้ ให้นายทะเบียนมีคำสั่งไม่รับจดทะเบียน และแจ้งคำสั่งไม่รับจดทะเบียนพร้อมด้วยเหตุผลที่ได้รับจดทะเบียน ไปยังผู้ขอจดทะเบียนโดยมิชักช้า ผู้ขอจดทะเบียนมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อปลัดกระทรวงได้ โดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อนายทะเบียนภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง คำวินิจฉัยของปลัดกระทรวงให้เป็นที่สุด

มาตรา ๑๓  ให้นายทะเบียนกลางสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ประกาศการจดทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๑๔  ข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อย่างน้อยต้องมีข้อความดังต่อไปนี้

(๑) ชื่อ ซึ่งต้องมีคำว่า “ สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ” กำกับไว้กับชื่อนั้นด้วย

(๒) วัตถุประสงค์

(๓) ที่ตั้งสำนักงาน

(๔) วิธีรับสมาชิกและการขาดจากสมาชิกภาพ

(๕) อัตราเงินค่าสมัครและอัตราเงินสงเคราะห์และวิธีการชำระเงินนั้น

(๖) ข้อกำหนดเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของสมาชิก

(๗) วิธีการจ่ายเงินค่าจัดการศพหรือค่าจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัว

(๘) ข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้จ่ายและการเก็บรักษาเงิน

(๙) ข้อกำหนดเกี่ยวกับการประชุมใหญ่

(๑๐) ข้อกำหนดเกี่ยวกับจำนวนกรรมการ การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการและการประชุมของคณะกรรมการ

มาตรา ๑๕  การแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ จะกระทำได้ก็แต่โดยมติของที่ประชุมใหญ่ และต้องนำไปจดทะเบียนภายในสิบสี่วัน นับแต่วันที่ประชุมใหญ่ลงมติ นายทะเบียนมีอำนาจไม่รับจดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ได้ ในเมื่อเห็นการแก้ไขหรือเพิ่มเติมนั้น ขัดต่อวัตถุประสงค์ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือขัดต่อกฎหมาย การแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ จะยังไม่มีผลใช้บังคับจนกว่านายทะเบียนจะได้รับจดทะเบียนแล้ว ในกรณีที่นายทะเบียนไม่รับจดทะเบียนการแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ให้นำมาตรา ๑๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๖  สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ต้องจัดให้มีป้ายชื่อภาษาไทยอ่านได้ชัดเจนติดไว้ที่หน้าสำนักงาน และต้องติดใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนไว้ที่สำนักงาน ในที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย

มาตรา ๑๗  ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญ ให้นายทะเบียนออกใบแทนใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนให้เมื่อสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ร้องขอ

กลับไปเริ่มต้นใหม่

หมวด ๓

การดำเนินกิจการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์

มาตรา ๑๘  ให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์มีคณะกรรมการเป็นผู้ดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ และเป็นผู้แทนของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก เพื่อการนี้คณะกรรมการจะมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่ง หรือหลายคนทำการแทนก็ได้

มาตรา ๑๙  การตั้งกรรมการและการเปลี่ยนตัวกรรมการ ให้ทำได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่ และต้องนำไปจดทะเบียนภายในสิบสี่วัน นับแต่วันที่ประชุมใหญ่ลงมติ

มาตรา ๒๐  ให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ นัดสมาชิกมาประชุมกันเป็นการประชุมใหญ่สามัญครั้งแรกภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่จดทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ เพื่อตั้งคณะกรรมการและมอบหมายทั้งปวงให้แก่คณะกรรมการ ในระหว่างที่ยังมิได้มีการประชุมใหญ่สามัญครั้งแรก ให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์มีอำนาจหน้าที่และการรับผิดชอบเช่นเดียวกับคณะกรรมการ การประชุมใหญ่สามัญครั้งต่อไป ให้คณะกรรมการเรียกประชุมปีละหนึ่งครั้ง แต่ทั้งนี้จะกำหนดไว้ในข้อบังคับให้เรียกประชุมมากกว่านั้นก็ได้

มาตรา ๒๑  คณะกรรมการจะเรียกประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อใดก็สุดแต่จะเห็นสมควร สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมด หรือไม่น้อยกว่าห้าสิบคนจะทำหนังสือร้องขอต่อคณะกรรมการให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อการหนึ่งการใดเมื่อใดก็ได้ ในกรณีที่สมาชิกเป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุมใหญ่สามัญ ให้คณะกรรมการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ ถ้าคณะกรรมการเรียกไม่เรียกประชุมใหญ่วิสามัญภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้นายทะเบียนมีอำนาจเรียกประชุมใหญ่วิสามัญได้

มาตรา ๒๒  การประชุมใหญ่ต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งจำนวนสมาชิกทั้งหมดหรือไม่น้อยกว่าห้าสิบคน จึงจะเป็นองค์ประชุม ถ้าในการประชุมนัดแรกสมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุม หากการประชุมนั้นได้นัดโดยสมาชิกร้องขอ ให้เลิกประชุม ถ้าการประชุมนั้นมิใช่โดยสมาชิกร้องขอ ให้นัดประชุมใหญ่อีกครั้ง ภายในสิบสี่วัน การประชุมครั้งหลังนี้ ไม่บังคับว่าจำต้องครบองค์ประชุม

มาตรา ๒๓  ในการประชุมใหญ่ สมาชิกคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน การวินิจฉัยชี้ขาดให้ถือเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

มาตรา ๒๔  สมาชิกจะมอบฉันทะให้ผู้อื่นมาประชุมแทนและออกเสียงแทนตนก็ได้ แต่การมอบฉันทะเช่นนี้ต้องทำเป็นหนังสือ

มาตรา ๒๕  นายทะเบียนและพนักงานเจ้าหน้าที่อาจจะเข้าร่วมการประชุมใหญ่ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ และอาจชี้แจงแสดงข้อคิดเห็นแก่ที่ประชุมใหญ่ได้ แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน

มาตรา ๒๖  ห้ามมิให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เก็บเงินอื่นใดจากสมาชิกนอกเหนือจากเงินค่าสมัคร เงินค่าบำรุง และเงินสงเคราะห์ เงินค่าสมัคร ให้เรียกเก็บจากผู้ซึ่งสมัครเข้าเป็นสมาชิกในครั้งแรกเพียงครั้งเดียว ตามอัตราที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ และต้องไม่เกินคนละห้าสิบบาท เงินค่าบำรุง ให้เรียกเก็บจากสมาชิกเป็นรายเดือนหรือรายปี ตามอัตราที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ และต้องไม่เกินคนละยี่สิบสี่บาทต่อปี เงินสงเคราะห์ให้เรียกเก็บได้ตามจำนวนสมาชิกที่ตายตามอัตราที่กำหนดไว้ในข้อบังคับและต้องไม่เกินรายละยี่สิบบาทสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อาจเรียกเก็บเงินสงเคราะห์ไว้ล่วงหน้าเพื่อสำรองจ่ายเป็นค่าจัดการศพได้ แต่ต้องไม่เกินอัตราที่ที่ประชุมใหญ่กำหนด ในกรณีที่สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เลิก หรือสมาชิกผู้ใดพ้นจากสมาชิกภาพ ให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์คืนเงินสงเคราะห์ที่เรียกเก็บไว้ล่วงหน้าแก่สมาชิก เท่าที่สมาชิกผู้นั้นยังไม่ตกอยู่ในความผูกพันที่ต้องจ่ายเงินสงเคราะห์ตามที่ได้จ่ายล่วงหน้าไว้แล้ว

มาตรา ๒๗  สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อาจหักเงินจำนวนหนึ่งไว้จากเงินสงเคราะห์ได้ตามสมควร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ตามอัตราที่ที่ประชุมใหญ่กำหนด และต้องไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ในกฏกระทรวง กฏกระทรวงกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ตามวรรคหนึ่ง จะกำหนดให้แตกต่างกันตามฐานะของสมาคมที่มีสมาชิกมากน้อยกว่ากันก็ได้

มาตรา ๒๘  กรรมการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างหรือเงินหรือประโยชน์อย่างอื่นทำนองเดียวกัน จากสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ กรรมการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อาจได้รับเบี้ยประชุม ค่าพาหนะหรือเงิน หรือประโยชน์อย่างอื่นทำนองเดียวกันจากสมาคมฌาปนกิจได้ หากสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ได้วางระเบียบไว้ให้ใช้จ่ายได้ ระเบียบของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ว่าด้วยการจ่ายเบี้ยประชุม ค่าพาหนะหรือเงินหรือประโยชน์อย่างอื่นทำนองเดียวกันให้แก่กรรมการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ต้องกระทำโดยมติของที่ประชุมใหญ่ และต้องส่งสำเนาที่มีคำรับรองว่าถูกต้องต่อนายทะเบียน

มาตรา ๒๙  ห้ามมิให้ผู้ใดชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการโดยวิธีใด ๆ ที่คล้ายคลึงกันให้ผู้ใดเข้าเป็นสมาชิกในสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ซึ่งยังมิได้จดทะเบียนโดยถูกต้องตามกฏหมาย

มาตรา ๓๐  ห้ามมิให้ผู้ใดชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการให้บุคคลเข้าเป็นสมาชิกในสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ โดยได้รับประโยชน์ตอบแทนเป็นเงินหรือทรัพย์สินอื่น ไม่ว่าจะเป็นสินจ้างหรือค่าใช้จ่ายอื่นจากการชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการนั้น

มาตรา ๓๑  ในการติดต่อกับสมาชิก พนักงานเจ้าหน้าที่ และบุคคลภายนอก สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ต้องเปิดทำการตามวันและเวลาที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสามวันต่อหนึ่งสัปดาห์ และวันหนึ่งไม่น้อยกว่าหกชั่วโมง ให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ประกาศวันและเวลาเปิดทำการไว้ที่สำนักงาน

มาตรา ๓๒  สมาชิกมีสิทธิขอตรวจสอบบัญชี และเอกสารของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ เพื่อทราบการดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ที่สำนักงานของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ได้ ในเวลาเปิดทำการ

กลับไปเริ่มต้นใหม่

หมวด ๔

การควบคุมสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์

มาตรา ๓๓  สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ต้องจัดให้มีทะเบียนสมาชิกตามแนบที่นายทะเบียนกลางกำหนด และให้เก็บรักษาทะเบียนดังกล่าวไว้ที่สำนักงาน พร้อมทั้งหลักฐานและเอกสารที่ใช้ประกอบการลงทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ต้องส่งสำเนาทะเบียนสมาชิกที่มีอยู่ในวันที่ครบเก้าสิบวัน นับแต่วันที่จดทะเบียนให้แก่นายทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันดังกล่าว และเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนและเดือนธันวาคมของทุกปี สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ต้องส่งสำเนาทะเบียนสมาชิกตามที่เป็นอยู่ในวันสิ้นเดือนนั้น ต่อนายทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันสิ้นเดือนนั้น

มาตรา ๓๔  สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ต้องจัดให้มีบัญชีแสดงฐานะการเงินตามแบบที่นายทะเบียนกลางกำหนด และต้องเก็บรักษาเอกสารประกอบบัญชีแสดงให้เห็นความถูกต้องแห่งบัญชีนั้นไว้ด้วย

มาตรา ๓๕  เมื่อสิ้นปีปฏิทินทุกปี สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ต้องทำบัญชีงบดุลตามแบบที่นายทะเบียนกลางกำหนด เสนอต่อที่ประชุมใหญ่เพื่ออนุมัติภายในหกสิบวันนับแต่วันสิ้นปี สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ต้องส่งสำเนางบดุลที่มีคำรับรองว่าถูกต้องต่อนายทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ประชุมใหญ่อนุมัติ และต้องแสดงไว้ที่สำนักงานเพื่อให้สมาชิก และผู้มีส่วนได้เสียตรวจดูได้

มาตรา ๓๖  หลักฐานเอกสารตามมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ และมาตรา ๓๕ สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบปี

มาตรา ๓๗  ผู้มีส่วนได้เสียจะขอตรวจเอกสาร หรือคัดเอกสาร หรือขอให้คัดรายการและรับรองสำเนาเอกสารเกี่ยวกับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์จากนายทะเบียน ให้ยื่นคำขอตามแบบที่นายทะเบียนกลางกำหนด

มาตรา ๓๘  เพื่อประโยชน์แก่การดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ให้เป็นไปด้วยดี เมื่อมีกรณีที่นายทะเบียนเห็นสมควรที่จะได้ฟังความคิดเห็น และคำวินิจฉัยของสมาชิกในปัญหาหรือกิจการใด

นายทะเบียนมีอำนาจสั่งให้คณะกรรมการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อพิจารณาและวินิจฉัยปัญหาหรือกิจการนั้นได้ และให้นำมาตรา ๒๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๓๙  การประชุมใหญ่ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ถ้าได้นัดเรียกหรือได้ประชุมกันหรือได้ลงมติฝ่าฝืนต่อกฎหมาย หรือข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ เมื่อสมาชิกคนหนึ่งคนใดหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ร้องขอ นายทะเบียนมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ที่เกิดขึ้นในการประชุมที่ได้เรียก หรือได้ประชุมกัน หรือได้ลงมติฝ่าฝืนต่อกฏหมาย หรือข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์นั้นเสียได้ การร้องขอให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่นั้น ถ้าสมาชิกเป็นผู้ร้องขอ ต้องร้องขอภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ประชุมใหญ่ลงมติ ในกรณีที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ กรรมการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์คนหนึ่งคนใดมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อปลัดกระทรวงได้ โดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อนายทะเบียนภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง คำวินิจฉัยของปลัดกระทรวงให้เป็นที่สุด

มาตรา ๔๐  ให้นายทะเบียนและพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตรวจสอบกิจกรรม และฐานะการเงินของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ เพื่อการนี้ให้นายทะเบียน และพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ

(๑) เข้าไปในสำนักงานของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก

(๒) สั่งให้กรรมการ พนักงาน หรือลูกจ้างของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ส่งหรือแสดงบัญชีและเอกสารของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์

(๓) สอบถามบุคคลใน (๒) หรือเรียกบุคคลดังกล่าวมาเพื่อสอบถามหรือแสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์

มาตรา ๔๑  ในการปฏิบัติหน้าที่ นายทะเบียนและพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวตามแบบที่กำหนดในกฏกระทรวง เมื่อผู้เกี่ยวข้องร้องขอ

กลับไปเริ่มต้นใหม่

หมวด ๕

การฌาปนกิจสงเคราะห์ของส่วนราชการ องค์การของรัฐและรัฐวิสาหกิจ

มาตรา ๔๒  ส่วนราชการ องค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจใด ที่ประสงค์จะดำเนินกิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์ ให้ปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดในมาตรา ๔๓

มาตรา ๔๓  ให้กระทรวงมหาดไทยกำหนดระเบียบการขึ้นทะเบียน การดำเนินกิจการการควบคุม และการเลิกกิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์ของส่วนราชการ องค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจขึ้นไว้ ระเบียบนี้เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วให้ใช้บังคับได้ เมื่อการฌาปนกิจสงเคราะห์ของส่วนราชการ องค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจได้ขึ้นทะเบียนตามระเบียบที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดแล้ว ให้ถือว่าการฌาปนกิจสงเคราะห์ดังกล่าวเป็นงานอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ องค์การของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจนั้น

กลับไปเริ่มต้นใหม่

หมวด ๖

การเลิกฌาปนกิจสงเคราะห์

มาตรา ๔๔  สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ย่อมเลิกด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง ดังต่อไปนี้

(๑) ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้เลิก

(๒) นายทะเบียนสั่งให้เลิกตามมาตรา ๔๕

(๓) ศาลสั่งให้เลิกตามมาตรา ๔๗

เมื่อเลิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ให้นายทะเบียนกลางประกาศการเลิกในราชกิจจานุเบกษา และให้นายทะเบียนประจำท้องที่ปิดประกาศที่สำนักงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ด้วย

มาตรา ๔๕  นายทะเบียนมีอำนาจสั่งให้เลิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ได้ในกรณีดังต่อไปนี้

(๑) สมาชิกไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดร่วมกันยื่นคำร้องขอต่อนายทะเบียนขอให้เลิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ พร้อมด้วยเหตุผลประกอบคำร้องขอ และนายทะเบียนได้สอบสวนหลักฐานตามเหตุผลประกอบคำร้องขอแล้วเป็นที่ปรากฏแน่ชัดว่าว่าสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมควรต้องเลิกดำเนินกิจการตามคำร้องนั้น

(๒) บุคคลอื่น ซึ่งมิได้เป็นกรรมการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์คนหนึ่ง หรือหลายคนเข้ามากระทำการในฐานะกรรมการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์นั้น และนายทะเบียนได้มีคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวเลิกกระทำการในฐานะกรรมการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์แล้ว แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายทะเบียน

(๓) มีพฤติการณ์ที่ทำให้เห็นว่า การดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์นั้นไม่เป็นไปโดยสุจริต และนายทะเบียนได้สอบสวนพฤติการณ์ดังกล่าวแล้วมีเหตุผลเป็นที่เชื่อถือได้

(๔) มีพฤติการณ์ที่ทำให้เห็นว่า การดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ไม่อาจจะดำเนินต่อไปได้ ไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ เมื่อนายทะเบียนสั่งเลิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ใด ให้แจ้งคำสั่งเป็นหนังสือพร้อมด้วยเหตุผลไปยังสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์นั้นโดยมิชักช้า

มาตรา ๔๖  กรรมการคนหนึ่งคนใดของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ที่นายทะเบียนสั่งเลิกตามมาตรา ๔๕ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อปลัดกระทรวงโดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อนายทะเบียนภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง และให้นายทะเบียนส่งคำอุทธรณ์ต่อไปยังปลัดกระทรวงโดยมิชักช้า คำวินิจฉัยของปลัดกระทรวงเป็นที่สุด

มาตรา ๔๗  ในกรณีที่นายทะเบียนต้องดำเนินการตามมาตรา ๔๕ แต่นายทะเบียนเพิกเฉย หรือไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่นั้นเมื่อผู้มีส่วนได้เสียร้องขอศาลอาจสั่งให้เลิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เสียก็ได้

มาตรา ๔๘  เมื่อสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ใดต้องเลิกไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้มีการชำระบัญชีสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์นั้น และให้นำความในบรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หมวด ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อันว่าด้วยการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัดมาใช้โดยอนุโลม

มาตรา ๔๙  เมื่อได้ชำระบัญชีแล้ว ถ้ามีทรัพย์สินเหลืออยู่จะแบ่งให้แก่สมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ไม่ได้ ทรัพย์สินนั้นจะต้องโอนไปให้นิติบุคคลอื่นตามที่ได้ระบุไว้ในข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือตามที่ที่ประชุมใหญ่ได้มีมติไว้ หรือถ้ามิได้ระบุไว้ในข้อบังคับ และที่ประชุมใหญ่มิได้มติไว้ ให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของรัฐ

กลับไปเริ่มต้นใหม่

หมวด ๗

บทกำหนดโทษ

มาตรา ๕๐  ผู้ใดดำเนินกิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์ โดยมิได้จดทะเบียนเป็นสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือขึ้นทะเบียนการฌาปนกิจสงเคราะห์ตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๕๑  ผู้ใดเป็นสมาชิกของการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยไม่รู้ว่าการฌาปนกิจสงเคราะห์นั้น มิได้จดทะเบียนเป็นสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือขึ้นทะเบียนการฌาปนกิจสงเคราะห์ตามพระราชบัญญัตินี้ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินห้าร้อยบาท

มาตรา ๕๒  ผู้ใดใช้คำแสดงชื่อในธุรกิจว่า “ฌาปนกิจสงเคราะห์” หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกัน อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๕ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งร้อยบาท จนกว่าจะเลิกใช้

มาตรา ๕๓  สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๕ , มาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๑๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท

มาตรา ๕๔  สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๖ หรือเรียกเก็บเงินจากผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือสมาชิกเกินกว่าที่กำหนด อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๒๖ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท

มาตรา ๕๕  สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ใดหักเงินไว้จากเงินสงเคราะห์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เกินกว่าที่กำหนด อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๒๗ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท

มาตรา ๕๖  กรรมการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ผู้ใดรับเงินหรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดจากสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ โดยไม่มีสิทธิที่จะรับได้ตามมาตรา ๒๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๕๗  ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๙ หรือมาตรา ๓๐ ถ้าการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนนั้น ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๕๘  สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ใด ไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ หรือมาตรา ๓๖ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท

มาตรา ๕๙  ผู้ใดแบ่งหรือโอนทรัพย์สินที่เหลืออยู่เมื่อได้ชำระบัญชีแล้ว ให้แก่บุคคลใด อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๔๙ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๖๐  ในกรณีที่สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ กรรมการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนในการกระทำความผิดของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์นั้นด้วย

กลับไปเริ่มต้นใหม่

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๖๑  ให้ส่วนราชการ องค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินกิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์อยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับและยังมิได้จดทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ตามกฏหมายที่ถูกยกเลิกในมาตรา ๓ ขึ้นทะเบียนการฌาปนกิจสงเคราะห์ต่อกรมประชาสงเคราะห์ตามที่ระเบียบกำหนดในมาตรา ๔๓ ภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ส่วนราชการ องค์การของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ที่ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ตามกฏหมายที่ถูกยกเลิกในมาตรา ๓ ไว้แล้ว ก่อนวันพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากประสงค์จะขอจดทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ตามพระราชบัญญัตินี้ต่อไป ให้กระทำได้และให้ถือว่าคำขอจดทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ที่ยื่นไว้นั้นเป็นคำขอจดทะเบียนตามมาตรา ๑๑

มาตรา ๖๒  นับแต่วันพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ถือว่าสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ที่จดทะเบียนตามกฎหมายที่ถูกยกเลิกในมาตรา ๓ เป็นสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้ และมีสิทธิหน้าที่และความรับผิดชอบตามพระราชบัญญัตินี้ทุกประการ

อัตราค่าธรรมเนียม

(๑) คำขอจดทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ฉบับละ ๒๐ บาท

(๒) คำขอจดทะเบียนแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ฉบับละ ๑๐ บาท

(๓) คำขอจดทะเบียนตั้งหรือเปลี่ยนตัวกรรมการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ฉบับละ ๑๐ บาท

(๔) คำขอตรวจหรือคัดเอกสาร เกี่ยวกับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ฉบับละ ๑๐ บาท

(๕) คำขอเกี่ยวกับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อย่างอื่นนอกจาก (๑) (๒) (๓) และ (๔) ฉบับละ ๕ บาท

(๖) ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ฉบับละ ๑๐๐ บาท

(๗) ใบแทนใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ฉบับละ ๒๐ บาท

(๘) การรับรองสำเนาเอกสารเกี่ยวกับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ฉบับละ ๕ บาท

หมายเหต  เหตุในการประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้ คือ เนื่องจากปรากฏว่าส่วนราชการ องค์การของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ไม่สามารถดำเนินกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์ให้เป็นไปตามรูปของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๒๘๗ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้ ประกอบกับบทบัญญัติบางข้อ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีข้อขัดข้องในทางปฏิบัติด้วย สมควรปรับปรุงประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าว เพื่อให้ส่วนราชการ องค์การของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ สามารถดำเนินกิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น

ระเบียบกองทัพอากาศ ว่าด้วยการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.๒๕๔๙

ล่าสุด

ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน เม.ย.67
18 เม.ย.67(6 วัน) อ่าน 21 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน มี.ค.67
6 มี.ค.67(1 เดือน) อ่าน 131 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน ก.พ.67
8 ก.พ.67(2 เดือน) อ่าน 72 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน ม.ค.67
16 ม.ค.67(3 เดือน) อ่าน 48 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน ธ.ค.66
8 ธ.ค.66(4 เดือน) อ่าน 93 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน พ.ย.66
9 พ.ย.66(5 เดือน) อ่าน 98 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน ต.ค.66
5 ต.ค.66(6 เดือน) อ่าน 205 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน ก.ย.66
2 ก.ย.66(7 เดือน) อ่าน 186 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน ส.ค.66
17 ส.ค.66(8 เดือน) อ่าน 127 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน ก.ค.66
5 ก.ค.66(9 เดือน) อ่าน 178 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน มิ.ย.66
22 มิ.ย.66(10 เดือน) อ่าน 108 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน ก.พ.66
2 มี.ค.66(1 ปี) อ่าน 350 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน ,ม.ค.66
2 ก.พ.66(1 ปี) อ่าน 323 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน ธ.ค.65
9 ม.ค.66(1 ปี) อ่าน 127 ครั้ง
ข้อมูลสมาชิกถึงแก่ความตายในเดือน พ.ย.65
2 ธ.ค.65(1 ปี) อ่าน 334 ครั้ง