ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด ๙๐ วัน เป็นต้นไปนับตั้งแต่นายทะเบียนเห็นชอบว่าไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๑๗ และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการฌาปนกิจสงเคราะห์ของส่วนราชการ องค์การของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.๒๕๑๗

ข้อ ๓ ให้ยกเลิก ระเบียบกองทัพอากาศว่าด้วยการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.๒๕๓๙ บรรดาระเบียบหรือคำสั่งอื่นใดที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ ซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน

ข้อ ๔ ให้เจ้ากรมสวัสดิการทหารอากาศเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้

หมวด ๑

บททั่วไป

ข้อ๕การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศเป็นกิจการสวัสดิการภายในส่วนราชการที่กองทัพอากาศจัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ นักเรียนทหาร ของกองทัพอากาศ และครอบครัว ได้สงเคราะห์ซึ่งกันและกันในการจัดการศพหรือจัดการศพและสงเคราะห์บุคคลในครอบครัวในกรณีที่บุคคลดังกล่าว ได้ถึงแก่ความตาย ให้เป็นไปอย่างสมเกียรติ โดยมิได้ประสงค์จะหากำไรเพื่อแบ่งปันกัน ใช้ชื่อว่า

“การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ” และใช้คำย่อว่า “ กฌ.ทอ.”

ข้อ ๖ การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศมีสำนักงานตั้งอยู่ที่อาคารการฌาปนกิจสงเคราะห์ กองทัพอากาศ กรมสวัสดิการทหารอากาศ ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

ข้อ ๗ ในระเบียบนี้

๗.๑ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ

๗.๒ “ประธานกรรมการ” หมายความว่า ประธานกรรมการการฌาปนกิจสงเคราะห์ กองทัพอากาศ

๗.๓ “นายทะเบียน” หมายความว่า นายทะเบียนการฌาปนกิจสงเคราะห์ของส่วนราชการ องค์การของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ

๗.๔ “สมาชิก” หมายความว่า สมาชิกของการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ

๗.๕ “ข้าราชการ” หมายความว่า ข้าราชการประจำการ สังกัดกองทัพอากาศ

๗.๖ “ลูกจ้างประจำ” หมายความว่า ลูกจ้างประจำที่ยังรับราชการอยู่ในกองทัพอากาศ

๗.๗ “ผู้มียศทหารอากาศ” หมายความว่า ผู้มียศทหารอากาศนอกสังกัดกองทัพอากาศ ที่ยังประจำการอยู่>

๗.๘ “บุคคลในครอบครัว” หมายความว่า บุคคลในครอบครัวของสมาชิก ประกอบด้วยคู่สมรสของสมาชิก บิดามารดาผู้ให้กำเนิดของสมาชิก บิดามารดาผู้ให้กำเนิดคู่สมรสของสมาชิก

๗.๙ “นักเรียนทหาร” หมายความว่า นักเรียนนายเรืออากาศ นักเรียนจ่าอากาศ

นักเรียนพยาบาลทหารอากาศ และนักเรียนดุริยางค์ทหารอากาศ

๗.๑๐ “เงินค่าสมัคร” หมายความว่า เงินที่การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ เรียกเก็บจากผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก

๗.๑๑ “เงินสงเคราะห์” หมายความว่า เงินที่สมาชิกร่วมกันออกตามจำนวนสมาชิกที่ถึงแก่ความตาย เพื่อช่วยเหลือเป็นค่าจัดการศพ หรือค่าจัดการศพและสงเคราะห์บุคคลในครอบครัวของสมาชิก ซึ่งถึงแก่ความตาย รวมทั้งเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการของการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ

๗.๑๒ “เงินสงเคราะห์ล่วงหน้า” หมายความว่า เงินที่การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศเรียกเก็บจากสมาชิกไว้ล่วงหน้า เพื่อสำรองจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์

หมวด ๒

อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ

ข้อ ๘ คณะกรรมการ มีจำนวนไม่เกิน ๑๕ คน ประกอบด้วย

๘.๑ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานกรรมการ

๘.๒ ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพอากาศ เป็นรองประธานกรรมการ

๘.๓ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารอากาศฝ่ายกำลังพล เป็นกรรมการ

๘.๔ เจ้ากรมสวัสดิการทหารอากาศ เป็นกรรมการและเลขานุการ

๘.๕ เจ้ากรมกำลังพลทหารอากาศ เป็นกรรมการ

๘.๖ เจ้ากรมการเงินทหารอากาศ เป็นกรรมการ

๘.๗ เจ้ากรมสารบรรณทหารอากาศ เป็นกรรมการ

๘.๘ เจ้ากรมช่างโยธาทหารอากาศ กองบัญชาการสนับสนุนทหารอากาศ เป็นกรรมการ

๘.๙ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ กองบัญชาการสนับสนุนทหารอากาศ เป็นกรรมการ

๘.๑๐ รองเจ้ากรมสวัสดิการทหารอากาศ เป็นกรรมการ

๘.๑๑ เสนาธิการกรมสวัสดิการทหารอากาศ เป็นกรรมการ

๘.๑๒ ผู้อำนวยการกองพระธรรมนูญ กรมสารบรรณทหารอากาศ เป็นกรรมการ

๘.๑๓ ผู้อำนวยการกองการสงเคราะห์ กรมสวัสดิการทหารอากาศ เป็นกรรมการและ ผู้ช่วยเลขานุการ

๘.๑๔ หัวหน้าแผนกฌาปนกิจ กองการสงเคราะห์ กรมสวัสดิการทหารอากาศ เป็นกรรมการ

๘.๑๕ หัวหน้านายทหารการเงิน ฝ่ายการเงิน กองการสงเคราะห์ กรมสวัสดิการทหารอากาศ เป็นกรรมการและเหรัญญิก

ข้อ ๙ การแต่งตั้งและเปลี่ยนแปลงกรรมการ อยู่ในอำนาจของประธานกรรมการ โดยกรรมการที่ได้ รับการแต่งตั้งจะเข้าดำเนินกิจการตามระเบียบนี้ได้ เมื่อนายทะเบียนได้พิจารณาว่าถูกต้องแล้ว

ข้อ ๑๐ คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังนี้

๑๐.๑ กำหนดนโยบาย กำกับ ดูแล กิจการของการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ ให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด เพื่อให้สมาชิกได้รับผลประโยชน์มากที่สุด

๑๐.๒ แต่งตั้ง หรือจ้าง และกำหนดค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ของการฌาปนกิจ สงเคราะห์กองทัพอากาศ

๑๐.๓ กำหนดระเบียบปลีกย่อยต่าง ๆ ซึ่งไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ขึ้นใช้ปฏิบัติ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ

ข้อ ๑๑ ให้มีการประชุมคณะกรรมการอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง และในที่ประชุมนี้ต้องมีกรรมการ ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งจึงจะเป็นองค์ประชุม และในกรณีประธานกรรมการไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ให้ผู้มีอาวุโส ในที่ประชุมนั้น เป็นประธานแทน และให้ถือเสียงข้างมากเป็นมติของที่ประชุม

ข้อ ๑๒ การแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบนี้ให้เป็นไปโดยมติของที่ประชุมคณะกรรมการ โดยมีคะแนนเสียง ไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมด แล้วเสนอต่อนายทะเบียนเพื่อให้ความเห็นชอบก่อน จึงจะใช้บังคับได้

หมวด ๓

การสมัครเข้าเป็นสมาชิกและการสิ้นสภาพสมาชิก

ข้อ ๑๓ ผู้มีสิทธิสมัครเข้าเป็นสมาชิก

๑๓.๑ ข้าราชการ

๑๓.๒ ลูกจ้างประจำ

๑๓.๓ ผู้มียศทหารอากาศ

๑๓.๔ นักเรียนทหาร

๑๓.๕ บุคคลในครอบครัว

ข้อ ๑๔ ข้อจำกัดในการสมัครเป็นสมาชิก

๑๔.๑ บุคคลในครอบครัวไม่มีสิทธิสมัครโดยลำพังตนเอง ต้องให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ หรือผู้มียศทหารอากาศ เป็นผู้นำสมัคร ๑๔.๒ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ หรือผู้มียศทหารอากาศ ที่ยังมิได้สมัครเป็นสมาชิก ไม่มีสิทธินำบุคคลในครอบครัวเข้าสมัคร

๑๔.๓ นักเรียนทหาร ไม่มีสิทธินำบุคคลในครอบครัวเข้าสมัคร

๑๔.๔ บุคคลที่มีผู้นำสมัครหลายคนมีสิทธิเป็นสมาชิกได้เพียงสิทธิเดียว

๑๔.๕ ผู้ที่พ้นสภาพการเป็นสมาชิก ตามข้อ ๑๘.๔ มีสิทธิสมัครใหม่ได้อีกเพียง ๑ ครั้ง โดยให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้สมัครใหม่ทุกประการ

๑๔.๖ ผู้สมัครเป็นสมาชิกได้จะต้องมีอายุตามเกณฑ์ดังนี้

๑๔.๖.๑ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ผู้มียศทหารอากาศ และคู่สมรส อายุ ไม่เกิน ๔๕ ปีบริบูรณ์ในวันยื่นสมัคร สำหรับผู้ที่ไม่ทราบวันเกิดแน่นอนให้ถือว่าเกิดวันที่ ๑ มกราคมของปีที่เกิดนั้น

๑๔.๖.๒ บิดามารดา ของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ผู้มียศทหารอากาศ และบิดามารดา ของคู่สมรส อายุไม่เกิน ๕๕ ปีบริบูรณ์ในวันยื่นสมัคร สำหรับผู้ที่ไม่ทราบวันเกิดแน่นอนให้ถือว่าเกิด วันที่ ๑ มกราคม ของปีที่เกิดนั้น

ข้อ ๑๕ การสมัครเข้าเป็นสมาชิก

๑๕.๑ ให้ยื่นใบสมัครต่อส่วนราชการต้นสังกัดของผู้สมัครหรือผู้นำสมัครหรือสำนักงานการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศด้วยตนเอง พร้อมทั้งรูปถ่ายครึ่งตัวหน้าตรงไม่สวมหมวก ขนาด ๓ x ๔ เซนติเมตร ของตนเอง ๒ รูป รวมทั้งเอกสารสำหรับตรวจสอบ ตามข้อ ๑๖ และเงินค่าสมัคร คนละ ๓๐.- บาท โดยผู้สมัคร ผู้นำสมัคร และพยาน จะต้องลงลายมือชื่อในใบสมัครต่อหน้าเจ้าหน้าที่ผู้รับสมัคร

๑๕.๒ ให้ระบุชื่อ สกุล ผู้รับเงินค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ไว้ในหนังสือแสดเจตนาระบุตัวผู้รับเงินสงเคราะห์ การเปลี่ยนผู้รับเงินจัดการศพ และเงินสงเคราะห์ภายหลังสมาชิกต้องแจ้งให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ๑๕.๓ ส่วนราชการต้นสังกัดที่รับสมัครมีหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานการสมัคร เมื่อเห็นว่าถูกต้องให้บันทึกเสนอการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ

๑๕.๔ ให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงใน ใบสมัครโดยละเอียด และให้ประธานกรรมการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุมัติแล้วรับเข้าเป็นสมาชิกต่อไป

ข้อ ๑๖ การตรวจสอบ

๑๖.๑ การตรวจสอบหลักฐานก่อนรับเข้าเป็นสมาชิก

๑๖.๑.๑ ถ้าผู้สมัครเป็นข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ผู้มียศทหารอากาศ หรือ นักเรียนทหาร ให้ตรวจสอบบัตรประจำตัว สำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์ของผู้สมัคร

๑๖.๑.๒ ถ้าผู้สมัครเป็นคู่สมรสของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ หรือผู้มียศ ทหารอากาศ ให้ตรวจสอบบัตรประจำตัว ใบสำคัญการสมรส สำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์ของผู้สมัคร

๑๖.๑.๓ ถ้าผู้สมัครเป็นบิดา มารดาของผู้นำสมัคร หรือของคู่สมรสของผู้นำสมัคร ให้ตรวจสอบบัตรประจำตัว สำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์ของผู้สมัคร ใบสำคัญการสมรสของ ผู้นำสมัครหรือของคู่สมรสของผู้นำสมัครแล้วแต่กรณี หรือหลักฐานอื่นใดที่แสดงว่าผู้สมัครเป็นบิดามารดา ผู้ให้กำเนิดของผู้นำสมัครหรือของคู่สมรสของผู้นำสมัคร

๑๖.๑.๔ ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานข้างต้นบางอย่างให้ตรวจสอบ หรือในกรณี ที่เป็นที่น่าสงสัย ให้ประธานกรรมการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เห็นสมควรให้ตรวจสอบหลักฐานไปยังสำนักงานทะเบียนท้องถิ่น

๑๖.๒ การตรวจสอบระหว่างเป็นสมาชิก ถ้าปรากฏข้อสงสัยว่าเอกสารต่าง ๆ ที่สมาชิกยื่นไว้ในขณะสมัครคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง หรือเอกสารที่ได้มาเพราะการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ให้ตรวจสอบเพิ่มเติมโดยการสืบสวนสอบสวน เมื่อปรากฎแน่ชัดว่าการสมัครเข้าเป็นสมาชิก เป็นไปโดยไม่สุจริตประการหนึ่งประการใดก็ดี ให้ประธานกรรมการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย สั่งเพิกถอนการเป็นสมาชิกของผู้นั้นทันที

ข้อ ๑๗ การขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิก

๑๗.๑ ให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศขึ้นทะเบียนผู้สมัครไว้เป็นสมาชิก นับตั้งแต่วันที่ประธานกรรมการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย อนุมัติและแจ้งให้ทราบทั่วกัน

๑๗.๒ ให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศออกเอกสารรับรองการเป็นสมาชิกมอบให้สมาชิกยึดถือไว้เป็นหลักฐาน

๑๗.๓ ให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ จัดให้มีทะเบียนสมาชิกตามแบบที่ นายทะเบียนกำหนด และให้เก็บรักษาทะเบียนดังกล่าวไว้ที่สำนักงาน พร้อมทั้งหลักฐานและเอกสารที่ใช้ประกอบการลงทะเบียน และเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนของทุกปี ให้ส่งสำเนาทะเบียนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น และแจ้งการตายของสมาชิก หรือการพ้นจากสมาชิกภาพไปให้นายทะเบียนทราบ

ข้อ ๑๘ การสิ้นสมาชิกภาพ ในกรณีต่อไปนี้ให้ถือว่าความเป็นสมาชิกสิ้นสุดลง คือ

๑๘.๑ ถึงแก่ความตายนับแต่วันที่ถึงแก่ความตาย

๑๘.๒ สมาชิกที่สาบสูญตามคำสั่งศาล ให้ถือว่าเป็นสมาชิกที่ถึงแก่ความตาย

๑๘.๓ ถูกเพิกถอนเพราะปรากฏในภายหลังว่าการสมัครเป็นไปโดยไม่สุจริตนับแต่วันที่ประธานกรรมการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย สั่งเพิกถอนตามข้อ ๑๖.๒

๑๘.๔ ลาออกนับแต่วันที่การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศได้รับหนังสือลาออก

๑๘.๕ ถูกตัดชื่อออก เพราะขาดส่งเงินสงเคราะห์ เกิน ๙๐ วัน และได้รับหนังสือเตือนจากการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ ให้ชำระเงินสงเคราะห์แล้ว ๓ ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายเป็นหนังสือเตือน ลงทะเบียนตอบรับ ซึ่งมีระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่า ๒๐ วัน และสมาชิกไม่ชำระเงินสงเคราะห์ หรือการฌาปนกิจ-สงเคราะห์กองทัพอากาศ ไม่สามารถติดต่อหาหลักแหล่งที่อยู่ได้

ข้อ ๑๙ ให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศถอนชื่อสมาชิก ตามข้อ ๑๘ ออกจากทะเบียน ทันที และแจ้งให้สมาชิกทราบทั่วกัน

ข้อ ๒๐ สมาชิกที่ถูกถอนชื่อออกจากทะเบียน ไม่มีสิทธิเรียกเงินค่าสมัคร และเงินสงเคราะห์ ที่จ่ายไปแล้วคืน รวมทั้งไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากเงินสงเคราะห์ล่วงหน้าที่สมาชิกผู้นั้นยังไม่ตกอยู่ในความผูกพันที่ต้องจ่ายเงินสงเคราะห์

หมวด ๔

หน้าที่และสิทธิสมาชิก

ข้อ ๒๑ สมาชิกมีหน้าที่ต้องปฏิบัติดังนี้

๒๑.๑ ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ และมติของคณะกรรมการอย่างเคร่งครัด

๒๑.๒ ชำระเงินสงเคราะห์ตามที่การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศแจ้งให้ทราบ

๒๑.๓ สมาชิกประจำการเมื่อย้ายสังกัดต้องแจ้งเจ้าหน้าที่การเงินของหน่วยที่ย้ายไปสังกัดใหม่ด้วยว่าตนเองเป็นสมาชิก และจำนวนบุคคลในครอบครัวที่เป็นสมาชิกร่วมด้วย

๒๑.๔ ต้องแจ้งให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศทราบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ทำงานหรือที่พักอาศัย

๒๑.๕ ต้องแจ้งให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศพร้อมหลักฐานเมื่อสมาชิกเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล รวมทั้งการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล ชื่อผู้รับเงินสงเคราะห์ตามที่ได้ระบุไว้

๒๑.๖ สมาชิกที่ออกจากราชการ หรือขาดจากอัตราเงินเดือนของกองทัพอากาศ ให้ติดต่อการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ เพื่อขอเป็นสมาชิกนอกสังกัดภายใน ๙๐ วัน มิฉะนั้นจะถูกถอนชื่อออกจากทะเบียน

ข้อ ๒๒ ผู้รับเงินสงเคราะห์นำศพสมาชิกที่ถึงแก่ความตายมาบำเพ็ญกุศล ณ ฌาปนสถานและ สุสานกองทัพอากาศ มีสิทธิได้รับส่วนลดตามอัตราที่กำหนดไว้สำหรับสมาชิก

หมวด ๕

อัตราเงินสงเคราะห์และการส่งเงินสงเคราะห์

ข้อ ๒๓ สมาชิกต้องจ่ายเงินสงเคราะห์ตามประกาศเก็บเงินของการฌาปนกิจสงเคราะห์ กองทัพอากาศ ตามจำนวนสมาชิกที่ถึงแก่ความตายในอัตราศพละ ๒.-บาท

ข้อ ๒๔ การส่งเงินสงเคราะห์

๒๔.๑ ให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศแจ้งจำนวนสมาชิกที่ถึงแก่ความตาย ให้ส่วนราชการในกองทัพอากาศ และสมาชิกนอกสังกัดกองทัพอากาศทราบภายในวันที่ ๑๐ ของทุกเดือน

๒๔.๒ ให้ส่วนราชการต้นสังกัดเก็บเงินสงเคราะห์จากสมาชิกที่รับเงินเดือน หรือ เงินค่าจ้าง หรือเงินบำนาญทางกองทัพอากาศ รวมทั้งสมาชิกที่เป็นบุคคลในครอบครัว ส่งให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศโดยตรงในวันที่ ๕ ของเดือนถัดไป

๒๔.๓ สมาชิกที่มีความประสงค์จะส่งเงินสงเคราะห์ล่วงหน้า ให้นำส่งเงิน ตามจำนวนเงิน และระยะเวลาที่การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศกำหนด

๒๔.๔ สมาชิกนอกจากที่กล่าว ตามข้อ ๒๔.๒ และ ข้อ ๒๔.๓ ให้ส่งเงินสงเคราะห์ต่อการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศโดยตรง โดยส่งทางธนาณัติหรือมาชำระเงินด้วยตนเองหรือหักจากบัญชีเงินฝากที่การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศกำหนด ภายในวันที่ ๕ ของเดือนถัดไป

หมวด ๖

การจ่ายเงินสงเคราะห์

ข้อ ๒๕ การจ่ายเงินสงเคราะห์ ให้ประธานกรรมการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้อนุมัติให้จ่าย จึงจะจ่ายได้

ข้อ ๒๖ การตรวจสอบหลักฐานเมื่อสมาชิกถึงแก่ความตาย ให้ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ตามที่สมาชิกได้ระบุไว้ในหนังสือแสดงเจตนานำหลักฐานดังต่อไปนี้มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อขอรับเงินสงเคราะห์ จากการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ

๒๖.๑ คำร้องขอของผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์

๒๖.๒ ใบมรณบัตรของสมาชิก พร้อมสำเนา หรือเอกสารของทางราชการ ที่แสดงว่าสมาชิกถึงแก่ความตาย

๒๖.๓ ทะเบียนบ้านของผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ พร้อมสำเนา ๑ ชุด

๒๖.๔ บัตรประจำตัวของผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ พร้อมสำเนา ๑ ชุด

ข้อ ๒๗ เมื่อการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศได้ตรวจหลักฐาน ตามข้อ ๒๖ ถูกต้อง ครบถ้วนแล้ว ให้ดำเนินการดังนี้

๒๗.๑ ให้จ่ายเงินสงเคราะห์ ให้แก่ผู้รับเงินสงเคราะห์ตามที่สมาชิกระบุไว้ในใบสมัคร ดังนี้

๒๗.๑.๑ จ่ายครั้งแรกเท่าที่เก็บได้ภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันรับคำขอรับเงินสงเคราะห์

๒๗.๑.๒ จ่ายเงินส่วนที่เหลือจากที่เรียกเก็บได้ทั้งหมดภายใน ๖๐ วัน นับแต่ วันจ่ายครั้งแรก และภายหลังจากที่เรียกเก็บได้จากยอดค้างชำระ

๒๗.๒ ให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ หักเงินไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการ ในอัตราร้อยละ ๓ ของเงินสงเคราะห์ทั้งหมด ที่จะต้องจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์

ข้อ ๒๘ ในกรณีที่สมาชิกมิได้ระบุตัวผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ไว้ในหนังสือแสดงเจตนา หรือระบุไว้แล้วแต่ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ได้ถึงแก่ความตายไปก่อนแล้ว หรือผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ได้รับเงินสงเคราะห์

ตามข้อ ๒๗.๑ ไปแล้ว และได้ถึงแก่ความตายไปก่อนที่จะมารับเงินสงเคราะห์ ตามข้อ ๒๗.๒ ให้ปฏิบัติดังนี้

๒๘.๑ ถ้าเป็นสมาชิกที่ยังรับราชการอยู่ให้ส่วนราชการต้นสังกัดแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเป็นผู้รับเงินเพื่อจัดการศพ พร้อมให้ตรวจสอบทายาทของสมาชิก และถ้ามีเงินสงเคราะห์เหลือให้จ่ายให้แก่ทายาทโดยธรรมของสมาชิกต่อไป

๒๘.๒ ถ้าเป็นสมาชิกนอกจากข้อ ๒๘.๑ ให้จ่ายเงินสงเคราะห์ตามลำดับดังนี้

๒๘.๒.๑ สามีหรือภรรยาของสมาชิก

๒๘.๒.๒ บุตรของสมาชิก

๒๘.๒.๓ บิดา มารดาของสมาชิก

๒๘.๒.๔ ผู้อยู่ในอุปการะและผู้อุปการะของสมาชิกซึ่งต้องอยู่ในความเห็นชอบจากคณะกรรมการด้วย

ข้อ ๒๙ เมื่อสมาชิกถึงแก่ความตาย แต่ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ ไม่ได้มาติดต่อขอรับเงินสงเคราะห์ตามกำหนด ให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ แจ้งให้ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ทราบภายใน ๙๐ วัน เพื่อมารับเงินสงเคราะห์ ถ้าไม่มาติดต่อขอรับตามกำหนด ให้ถือว่าเป็นเงินสงเคราะห์ค้างจ่าย และเมื่อพ้นกำหนด ๑๐ ปีไปแล้ว ให้โอนเงินจำนวนนี้เข้าเป็นเงินทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ

หมวด ๗

หน้าที่ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติ

ข้อ ๓๐ กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศตามระเบียบนี้ ให้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการ สังกัดกองทัพอากาศ ที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติและประสานงานกับการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศดังนี้

๓๐.๑ จัดทำทะเบียนสมาชิกที่ถูกหักเงินสงเคราะห์จากเงินเดือน หรือค่าจ้างหรือบำนาญ

๓๐.๑ ให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศทราบโดยด่วน ในกรณีย้ายสังกัดให้ส่วนราชการต้นสังกัดเดิมแจ้ง ให้ส่วนราชการต้นสังกัดใหม่ทราบด้วย

๓๐.๓ กรณีมีข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ย้ายมาเข้าสังกัดใหม่ แจ้งว่าตนเองและ บุคคลในครอบครัวเป็นสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ ให้ส่วนราชการต้นสังกัดใหม่ดำเนินการ เก็บเงินสงเคราะห์ โดยหักจากเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้วแต่กรณี และนำส่งการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศตามประกาศเก็บเงินสงเคราะห์ในแต่ละเดือน เพื่อให้การส่งเงินสงเคราะห์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

๓๐.๔ ในกิจการอื่น ๆ ที่สมควรและจำเป็น ตามที่การฌาปนกิจสงเคราะห์ กองทัพอากาศแจ้งให้ทราบ

หมวด ๘

การเงินและการบัญชี

ข้อ ๓๑ เงินทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศได้มาจาก

๓๑.๑ ค่าสมัครเข้าเป็นสมาชิก

๓๑.๒ เงินที่หักจากเงินสงเคราะห์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการ

๓๑.๓ ดอกผลที่เกิดจากเงินฝากธนาคาร

๓๑.๔ เงินที่ได้รับจากการบริจาค

๓๑.๕ เงินรายได้อื่น ๆ

ข้อ ๓๒ การรับจ่ายเงิน ให้หน่วยงานการเงินของการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ เป็นหน่วยรับผิดชอบ โดยต้องมีหลักฐานการรับเงินหรือจ่ายเงินไว้เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ กับต้องบันทึก รายการรับเงินหรือจ่ายเงินนั้นในบัญชีในวันที่รับเงินหรือจ่ายเงินนั้นด้วย

ข้อ ๓๓ การฝากเงินธนาคาร ให้เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารทหารไทย จำกัด ( มหาชน ) หรือธนาคารของรัฐ หรือสาขาของธนาคารดังกล่าว ในนามของการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ

ข้อ ๓๔ การสั่งจ่ายเงิน หรือถอนเงินจากธนาคาร ต้องมีผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินในเช็ค หรือใบถอนเงินร่วมกัน ๒ คน คือ ประธานกรรมการ หรือรองประธานกรรมการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ลงลายมือชื่อร่วมกับ เหรัญญิก หรือหัวหน้าฝ่ายงานการเงิน หรือผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายงานการเงิน ของการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ

ข้อ ๓๕ เงินทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ จะนำไปจ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันได้เฉพาะ กรณีพึงจ่าย หรือก่อหนี้ผูกพัน เพื่อกิจการของการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศเท่านั้น

ข้อ ๓๖ การสั่งใช้จ่ายเงินทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ รองประธานกรรมการ และหรือ เลขานุการ สั่งจ่ายเงินในวงเงินครั้งละไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐.- บาท หากเกินวงเงินดังกล่าวให้ขออนุมัติประธานกรรมการ เว้นแต่การสั่งจ่ายเงินสงเคราะห์

ข้อ ๓๗ การบัญชีและการจัดทำรายงานการเงิน ให้ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพอากาศว่าด้วย การบัญชีเงินการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.๒๕๓๙ ซึ่งต้องให้มีบัญชีแสดงฐานะการเงินตามแบบที่นายทะเบียนกำหนด

ข้อ ๓๘ เมื่อสิ้นปีปฏิทินของทุกปี ให้การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศจัดทำรายงานการเงินประกอบด้วยบัญชีรายได้ – รายจ่าย งบดุล พร้อมรายละเอียดประกอบ และต้องจัดให้มีการตรวจสอบบัญชี โดยผู้ตรวจสอบภายใน หรือผู้ตรวจสอบบัญชีให้ถูกต้องก่อน แล้วเสนอประธานกรรมการเพื่ออนุมัติภายใน ๑๕๐ วัน นับแต่วันสิ้นปี และส่งสำเนางบดุลพร้อมด้วย สำเนาบัญชีรายได้ – รายจ่าย ที่มีคำรับรองว่าถูกต้องให้แก่ นายทะเบียนภายใน ๑๔ วัน นับแต่วันที่ได้รับอนุมัติ และให้แสดงงบดุลนั้นไว้ในสำนักงาน เพื่อให้สมาชิกและ ผู้มีส่วนได้เสียตรวจสอบได้

ข้อ ๓๙ หลักฐานตามข้อ ๓๗ และ ข้อ ๓๘ ต้องเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี

ข้อ ๔๐ การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การตรวจเงิน และบัญชี ซึ่งมิได้กำหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้ปฏิบัติตามที่คณะกรรมการกำหนด

หมวด ๙

การเลิกการฌาปนกิจสงเคราะห์และการชำระบัญชี

ข้อ ๔๑ ในกรณีที่ได้รับคำสั่งจากนายทะเบียนให้เลิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ ให้คณะกรรมการประชุมพิจารณาว่าสมควรเลิก หรือมีทางแก้ไขประการใด ถ้าที่ประชุมมีมติไม่ให้เลิกและมีเหตุผลและวิธีแก้ไขประการใด ให้ทำหนังสืออุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โดยยื่นต่อนายทะเบียนภายใน

๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง

ข้อ ๔๒ เมื่อต้องเลิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ ให้หัวหน้าส่วนราชการที่รับผิดชอบ ดำเนินการให้มีการชำระบัญชีให้เสร็จโดยเร็ว

ข้อ ๔๓ เมื่อชำระบัญชีแล้ว ถ้ามีทรัพย์สินของการฌาปนกิจสงเคราะห์เหลืออยู่เท่าใดให้โอนหรือจำหน่ายไปใช้จ่ายในด้านสวัสดิการของกองทัพอากาศต่อไป

 

ประกาศ ณ วันที่ พ.ศ. ๒๕๔๔

พลอากาศเอก

( ปอง มณีศิลป์ )

ผู้บัญชาการทหารอากาศ

 

ผนวก ๑

วันขึ้นทะเบียน…………..…………………...............

หมายเลขทะเบียน…………………………..............

ใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์

กองทัพอากาศ

เขียนที่……………………………….....................

วันที่…………..เดือน…………..............………พ.ศ……...

๑. ข้าพเจ้า………………………………....................……………..……...เกิดเมื่อ…………….……….อายุ…….…………..ภูมิลำเนาปัจจุบันเลขที่……….......………..……ตำบล/แขวง…………………….................…...

อำเภอ/เขต……………..……….....จังหวัด………………….................อาชีพ…………………..……........................ตำแหน่ง………………………………………..…………..…....................…...สังกัด…………………………............

ปรากฏตามแบบตรวจสอบประวัติซึ่งนายทหารกำลังพลต้นสังกัดรับรองตามที่ได้แนบมาพร้อมนี้ ข้าพเจ้าเกี่ยวข้องเป็น……………………..………………..ของ………….…………..…………..…………สังกัด………………………..

ซึ่งเป็นผู้นำสมัครของข้าพเจ้า หมายเลขโทรศัพท์…………………………...

ข้าพเจ้าขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ของกองทัพอากาศ ได้ส่งเงินค่าสมัคร

จำนวน ๓๐.-บาท มาพร้อมด้วยแล้ว

ข้าพเจ้ามีความประสงค์จะส่งเงินสงเคราะห์ต่อการฌาปนกิจสงเคราะห์ โดย

ผู้นำสมัครเป็นผู้ส่งเงินสงเคราะห์แทนข้าพเจ้า

หักจากบัญชีเงินฝาก ธนาคาร………..…………..…….......…สาขา…….......…………...

ชื่อบัญชี………..…..............…………............ หมายเลขบัญชี ………………….……...

ส่งทางธนาณัติ

มาชำระด้วยตนเอง

๒. เมื่อข้าพเจ้าได้เป็นสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ของกองทัพอากาศโดยสมบูรณ์แล้วข้าพเจ้ายินยอมปฏิบัติดังต่อไปนี้

๒.๑ ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบของกองทัพอากาศว่าด้วยการฌาปนกิจสงเคราะห์ไม่ว่าระเบียบนั้น จะออกก่อน หรือหลังวันที่ข้าพเจ้าเป็นสมาชิก หรือตามที่จะได้มีการแก้ไขเปลี่ยนขึ้นในภายหลังนั้นทุกประการ

๒.๒ ถ้าปรากฏภายหลังว่าข้าพเจ้าสมัครด้วยความไม่สุจริตประการหนึ่งประการใดก็ดีข้าพเจ้ายินยอมให้กองทัพอากาศถอนข้าพเจ้าออกจากความเป็นสมาชิกได้ทันที และให้รับเงินค่าสมัครที่ข้าพเจ้าส่งเงินสงเคราะห์ไปแล้วทั้งหมดสมทบเข้าเป็นเงินทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์ของกองทัพอากาศด้วย

๒.๓ เมื่อข้าพเจ้าย้ายภูมิลำเนาก็ดี หรือเปลี่ยนชื่อตัวชื่อสกุลก็ดี ข้าพเจ้าขอรับรองว่าจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่การฌาปนกิจสงเคราะห์ของกองทัพอากาศทราบโดยเร็ว

๓. ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้รับอนุมัติให้เป็นสมาชิก หรือได้รับอนุมัติแล้วภายหลังต้องหมดสมาชิกภาพลงด้วยประการหนึ่งประการใดก็ดี เงินค่าสมัครและเงินสงเคราะห์ที่ข้าพเจ้าชำระมาแล้วทั้งหมด ข้าพเจ้าไม่ขอรับคืนขออุทิศ ให้เป็นเงินทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศสืบไป

๔. ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ข้อความที่ข้าพเจ้ากล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นความจริงทุกประการ หากปรากฏว่า ไม่เป็นความจริงในเรื่องหนึ่งเรื่องใดก็ดี ข้าพเจ้ายินยอมให้กองทัพอากาศถอนข้าพเจ้าออกจากความเป็นสมาชิกได้ทันที โดยข้าพเจ้าไม่มีสิทธิเรียกเงินค่าสมัคร เงินสงเคราะห์ ที่ส่งชำระไปแล้ว และค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น

รูปถ่ายของผู้สมัคร ลงชื่อ…..…………………………..……...ผู้สมัคร……………………….

ลงชื่อ………………..………………........พยาน (……………………….)

ลงชื่อ………..…………………………….พยาน (……………………….)

คำรับรอง

ข้าพเจ้า…………………………..…….........…ตำแหน่ง……………………………..…..…..………………

สังกัด…………………..…………. ซึ่งเป็นผู้นำ……………………………………………………..…...………..สมัครเข้าเป็นสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศขอรับรองว่าข้อความที่ผู้สมัครได้กล่าวไว้ในข้อ ๑ ข้างต้นนั้นเป็นความจริงทุกประการ

ลงชื่อ………..…………………....……ผู้นำสมัคร………..…………..………

ขอรับรองว่า ๑. ผู้สมัคร พยานและผู้นำสมัครได้ลงลายมือชื่อต่อหน้าข้าพเจ้า

๒. ผู้สมัครได้กรอกรายการในใบสมัครครบถ้วนตามที่ทางราชการต้องการแล้ว

๓. รูปถ่ายที่ติดในช่องรูปถ่ายของผู้สมัครเป็นรูปถ่ายของผู้สมัครจริง

๔. ผู้นำสมัครเป็นสมาชิกการฌาปนกิจกองทัพอากาศ หมายเลขทะเบียน..………………..….……

ลงชื่อ………………………………..……………..

ตำแหน่ง………..………………………………..

(เจ้าหน้าที่การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ)

………/…………./………

หมายเหตุ ๑. รูปถ่ายผู้สมัครประทับตรากรมสวัสดิการทหารอากาศ และเจ้าหน้าที่การฌาปนกิจสงเคราะห์

กองทัพอากาศ ลงชื่อและวันที่คร่อมทับ

๒. ช่องใดที่ไม่ต้องการกรอก ให้ขีด ( - ) เต็มช่องว่าง

 

 

ผนวก ๒

คำร้อง

เขียนที่………………………………..…………...........

วันที่…………….เดือน………..…....……….. พ.ศ.………..……...

เรื่อง ขอระบุตัวบุคคลที่จะมีสิทธิรับเงินสงเคราะห์

เสนอ การฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ

ข้าพเจ้า………..…………..……………………………........……………….. สังกัด………..…………………อยู่บ้านเลขที่.....................หมู่………..………… ถนน,ซอย……....……..…………ตำบล/แขวง……….…...……………….

อำเภอ/เขต………..…………………………………..…......…………จังหวัด……………………….………........................โทรศัพท์…………………….………..………..................................….เป็นสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศ เลขทะเบียนที่………...........…………..………............…..………… มีความประสงค์ระบุตัวบุคคลผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์

และเงินสงเคราะห์ส่วนที่เหลือ ดังนี้

๑. …………………………………………………………………………………………..…………..

จึงเสนอมาเพื่อขอได้ดำเนินการให้ต่อไปด้วย

(ลงชื่อ)………….………..…………..………………ผู้ร้องขอ

 

หมายเหตุ

- กรณีที่ผู้สมัครเป็นผู้ส่งเงินสงเคราะห์ด้วยตนเอง ให้ผู้สมัครระบุตัวผู้รับเงินสงเคราะห์ ซึ่งจะเป็นบุคคลใดก็ได้ และสามารถเปลี่ยนแปลงผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ ได้ในภายหลัง

กรณีที่ผู้สมัครได้ขอให้ผู้นำสมัครเป็นผู้ส่งเงินสงเคราะห์แทนตน ผู้สมัครต้องระบุให้ผู้นำสมัคร